• โมเดลสามารถปรับปรุงเป็นญิบหมู่เล็กมากหมวดใหญ่หรือไม่ก็ประสบความสำเร็จสาธิตทั่วระดับขึ้นกับความพร้อมสรรพสิ่งเครื่องมือเครื่องใช้
• เจลาตินควรสร้างและตั้งค่าล่วงหน้าในการสร้างแบบจำลอง
• กระทะให้การช่วยเหลือโครงสร้างมากมายสำหรับเจลาตินการนำเจลาตินออกจากกะทะแล้วใส่กระจกทำเอาเจลาตินไวดามขอบกับน้ำตาแห่งหยาบกร้านซึ่งจะส่งผลแตะต้องต่อโมเดลเธอสามารถหลบมุมสิ่งนี้ได้เพราะว่าใช้กระทะที่ชัดเจน (ไม่มีผิวในกระจกที่จะส่งผลแจะต่อทางของลำแสงแสงเลเซอร์)วิธีนี้เจลาตินสามารถเก็บไว้แห่งกระทะในกรณีนี้ให้ข้ามขั้นตอนที่ 2 และ 4 ในซีก "ขั้นตอน" ข้างล่างแล้วคลึงหินอ่อนลงในที่เจลาตินหลังจากที่ก่อตั้งไว้เพื่อให้หินอ่อนล้างออกด้วยผิวหน้าสิ่งนี้ให้ความแน่วแน่กับเจลาตินมากขึ้นและทำให้ขอบเรียบลดจำนวนรวมการกระเจิดกระเจิงของแสงแปลบปลาบเลเซอร์แห่งมีประสบการณ์

หมายเหตุด้านสวัสดี: เลเซอร์เป็นโทษที่อาจเกิดขึ้นเพราะพวกเลี่ยนสามารถเผาไหม้เรตินาสรรพสิ่งตาหลบฉากการสัมผัสกับดวงตาต่อหน้าและใช้ความระมัดระวังเมื่อเล็งแสงเลเซอร์ไปที่กระจกเพื่อจะหลีกเลี่ยงงานสะท้อนลำแสงแสงเลเซอร์โดยไม่ตั้งใจเข้ามาในดวงตาของทั้งหมด ๆ คน

ศตพรรษที่ผ่านมา Albert Einstein ตั้งแนวความคิดว่าครั้นวัตถุเคลื่อนที่ผ่านนอกโลกพวกเลี่ยนจะก่อสร้างคลื่นณกาลอวกาศรอบ ๆ พวกมันลูกคลื่นความโน้มถ่วงเหล่านี้เคลื่อนตัวออกไปด้านนอกเช่นลูกคลื่นจากก้อนหินที่ยกผ่านผิวของสระเขาเข้าใจเพียงตงิดๆว่า 1.3 พันล้านปีก่อนหลุมดำขนาดใหญ่สองแห่งหนชนห้ามการปะทะห้ามปล่อยกำลังแรงงานจำนวนแยะภายในเสี้ยววินาที (ประมาณ 50 เท่าวิภาสเท่ากับดาวทั้งหมดในเอกภพที่มองเห็นได้ออกัน) และส่งคลื่นความโน้มถ่วงเจียรทุกทิศทางพอวันที่ 14 กันยายน 2558 คลื่นเหล่านั้นเข้าโลกกับถูกตรวจพบเพราะว่านักวิจัยสถานที่ Laser Interferometer Gravitational-Observatory (LIGO)

เลี่ยนสำคัญทำไม

Einstein ตีพิมพ์ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปในปี 1915 ในนั้นเขาบอกล่วงหน้าการมีอยู่ของคลื่นแรงโน้มถ่วงซึ่งไม่เคยตรวจพบต่อหน้าจนถึงตอนนี้ในที่ปี 1974 นักฟิสิกส์ค้นพบตวาดดาวนิวตรอนสองโชคเคราะห์ที่โคจรรอบกันและกันเข้าใกล้กันงอกงามในลักษณะแห่งตรงกับการทำนายของไอน์สไตน์ 19เสียแต่ว่ามันเป็นชันษาที่ 19 จนถึงปี 2015 เมื่อเครื่องมือสรรพสิ่ง LIGO19 ได้รับการอัพเกรดด้วยกันมีความไวมากขึ้นพวกเขาสมรรถตรวจจับการปรากฏเนื้อตัวของคลื่นแรงโน้มถ่วงที่เกิดขึ้นแน่ๆยืนยันชิ้นส่วนแห่งสำคัญที่สุดสรรพสิ่งทฤษฎีของ Einstein19

มันก็สำคัญเช่นกันเพราะว่าคลื่นความโน้มถ่วงนำข้อมูลเกี่ยวกับการลงทะเบียนเรียนของเขาทั้งหลายและเกี่ยวกับคุณลักษณะพื้นฐานของความโน้มถ่วงที่ไม่สามารถมองเห็นได้เปลี่ยนการสังเกตคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจำต้องขอบคุณการค้นพบของ LIGO19 ซึ่งเป็นสาขาวิทยาศาสตร์ใหม่ต้นตอขึ้น: ดาราศาสตร์ลูกคลื่นความโน้มถ่วง

พวกมันทำอย่างไร

LIGO ประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในวอชิงตันและหลุยเซียน่าเรือนหอดูดาวแต่ละแห่งหนใช้ลำแสงเลเซอร์ที่แยกและส่งยอมท่อยาว 2.5 ไมล์ (4 กม.)ลำแสงเลเซอร์จะบ่งบอกระยะห่างระหว่างกระจกที่อาศัยตรงปลายมากของแต่ละหลอดอย่างแม่นยำเมื่อคลื่นความโน้มถ่วงผ่านไปกระจกส่องจะเคลื่อนที่แห่งปริมาณเล็กน้อยซึ่งจะเปลี่ยนระยะห่างระหว่างเหล่ามันLIGO มีคดีไวสูงยิ่งนักจนสามารถตรวจค้นการเปลี่ยนแปลงที่น้อยกว่า 1 / 10,000 ความกว้างสรรพสิ่งโปรตอน (10 ^-19 เมตร)การมีหอสังเกตการณ์สองที่อยู่ไกลกันยิ่งนักทำเอานักวิจัยสามารถกะแนวที่ระลอกคลื่นลงมาด้วยกันประกันดุอาณัติสัญญาณมาจากต่างดาวยิ่งกว่าชิ้นที่อาศัยใกล้เคียง (เป็นต้นว่ารถบรรทุกหนักหรือว่าแผ่นดินไหว)

อัปเดต 13;3 เดือนตุลาคม 2017: นักวิจัย Kip Thorne และ Barry Barish ที่ Caltech และ Rainer Weiss สรรพสิ่ง MIT ถือสิทธิ์รางวัลโนเบลสำนักงานสาขาฟิสิกส์รายปี 2560 เกี่ยวกับ 1C ที่ปี 1C ชิ้นงานแตกหักสรรพสิ่งสิ่งตรวจ LIGO กับงานตรวจระลอกคลื่นความโน้มถ่วง 1D;

Thorne, Barish กับ Weiss มีบทบาทประธานแห่งการทำเอาแผนการ LIGO แน่แท้เปลี่ยนการค้นคว้าความเป็นผู้นำกับการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อจะตรวจระลอกคลื่นความโน้มถ่วง

ที่ถ้อยแถลงดามติดอยู่ลเทคThorne กล่าวว่ารางวัลยังเป็นของนักวิทยาศาสตร์กับวิศวกรกว่า 1,000 มนุษย์ทั่วโลกแห่งหนมีส่วนร่วมที่ LIGO ซึ่งสำเร็จมาจากความร่วมมือระยะยาวระหว่าง Caltech, MIT ด้วยกันมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ

3A;อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ของ Caltech

1. เตรียมเจลาตินติดสอยห้อยตามแนวสิ่งของพัสดุภัณฑ์ด้วยกันเทลงแห่งถาดอบจำเป็นต้องรู้แก่ใจดุเจลาตินครบถ้วนกะทะที่กระจกจะถูกปกคลุมเป็นส่วนใหญ่ไม่ก็เจริญเมื่อใส่เลี่ยน (ขั้นตอนแห่ง 5)
2. แหมะหินอ่อนไม่ก็กรวดในหัวมุมเอ็ดสรรพสิ่งเจลาตินประมาณหนึ่งนิ้วขนมจากข้างข้างสิ่งของกระทะกับวางธุระแยกออกมันจมลงไปด้านล่าง
3. อนุญาตให้เจลาตินตั้งค่าทั้งผอง
4. เมื่อเจลาตินจับตัวให้แหมะพื้นผิวแบนแบบพกพา (เป็นต้นว่าเขียงหรือกระบิคุกกี้) ที่ชั้นบนของกระทะพลิกถาดเบา ๆ แล้วยกมาเจลาตินออกจากกะทะ
5. กดกระจกลงในที่เจลาตินในหัวมุม 45 องศาตรงกันข้ามหินอ่อนตรวจสอบจ่ายแน่ใจแหววางกระจกให้ห่างจากขอบของเจลาตินควรเจลาตินยังคงอยู่
6. บ่งบอกเจลาตินจากข้างที่อยู่ใกล้กับหินอ่อนเพ่งมองเลเซอร์เจียรที่กระจกส่องและทำเอามันแน่นไม่ขนย้าย 19 (เช่นเพราะว่าการรายงานลงที่หนังสือไม่ก็แฟ้ม)ชดใช้เทปหรือที่หนีบกระดาษยึดเพื่อจะกดปุ่มบนของเลเซอร์คั่งค้างไว้
7. แหมะการ์ดเลเซอร์เป้าหมายวางนอกเจลาตินแห่งเส้นทางสรรพสิ่งเลเซอร์สถานที่สะท้อนออกมารักษาความปลอดภัยพอให้การ์ดจับหลัก (เช่นเพราะการรายงานลงแห่งหนังสือเครื่องผูกหรือด้านปีกของถาดอบที่ชัดเจน)
   

   + ขยายภาพ

8. ด้วยแสงเลเซอร์และแสงเลเซอร์การ์ดความมุ่งหมายคงที่จ่ายวางหินอ่อนกลุ่มที่สองลงบนหินอ่อนที่รองรับค่าไว้ในเจลาติน

+ ขยายภาพ

แห่งรุ่นตรงนี้เจลาตินแทนกาลอวกกลับาศการชนสรรพสิ่งหินอ่อนหมายถึงการชนกันสิ่งของหลุมดำสองแห่งการสั่นสะเทือนในเจลาตินเป็นตัวแทนของระลอกคลื่นความโน้มถ่วงและการดำเนินของเลเซอร์บนจ้องท่าทำเครื่องหมายชี้ว่ามีคลื่นความโน้มถ่วง

+ ขยายภาพ

+ ขยายภาพ

+ ขยายภาพ

• สำหรับโมเดลนี้เราเก็งว่ากาลอย้อนาศจะคลายออกไปต่างประเทศเหนือขนมจากเจลาตินและแสงเลเซอร์และการ์ดเป้าหมายเลเซอร์ก็อยู่ที่กาลอวกาศอีกด้วยถามนักเรียนว่าฉันใดแบบ กำหนด ในตรงนี้วิธีและวิธีที่อาจส่งผลกับรุ่น

  คำตอบ