ระบบเสียงตามสาย ระบบเสียงแบ็คกราวน์
รับติดตั้งระบบเสียงตามสาย ระบบเสียงแบ็คกราวน์ บ้าน ร้านอาหาร โรงแรม ห้างสรรพสินค้า พลาซา Call 0816484181
Public Address Sound Systems
ระบบเสียงสาธารณะหรือระบบPA systems เป็นชุดที่เราออกแบบมาเพื่อให้ทนทานต่อสภาพอากาศแวดล้อมอากาศฟ้าฝนมีความแข็งแรงทำงานได้ดีทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุด และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย ความสามารถระบบ ระบบสามารถปรับแต่งได้ตามความเหมาะสมกับความต้องการของ ลูกค้าและการออกแบบ ในงบประมาณที่คุณสามารถกำหนดได้ระบบสามารถให้บริการพื้นที่สาธารณะขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่เช่นพื้นที่สาธารณะกลางแจ้งในร่มลานจอดรถสถานที่สาธารณะสถานีรถไฟสถานีรถไฟอาคารสาธารณะสวนนันทนาการ สนามกีฬาสวนสนุกสนามกีฬา และพื้นที่อื่น ๆ
|
 |
 |
ลำโพงเพดาน |

ติดตั้งลำโพงเพดาน

|
ระบบเสียงตามสาย (Public Address System)
ระบบเสียงตามสายเป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อกระจายเสียงไปยังพื้นที่ขนาดใหญ่หรือหลายพื้นที่พร้อมกัน โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการสื่อสารสาธารณะ เช่น การประกาศฉุกเฉิน การให้ข้อมูลสำคัญ หรือการประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่าง ๆ
องค์ประกอบหลักของระบบเสียงตามสาย:
-
ไมโครโฟน (Microphone): เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับป้อนเสียงเข้าสู่ระบบ โดยอาจเป็นแบบตั้งโต๊ะ แบบมือถือ หรือแบบไร้สาย
-
เครื่องขยายเสียง (Amplifier): ทำหน้าที่ขยายสัญญาณเสียงให้มีความดังเพียงพอสำหรับการกระจายเสียงไปยังพื้นที่ต่าง ๆ
-
ลำโพง (Speaker): เป็นอุปกรณ์ที่แปลงสัญญาณไฟฟ้าเป็นเสียง โดยมีการติดตั้งในจุดต่าง ๆ ตามพื้นที่ที่ต้องการกระจายเสียง
-
ระบบควบคุม (Control System): อาจเป็นระบบแบบแมนนวลหรือระบบอัตโนมัติที่ช่วยในการควบคุมการทำงานของระบบเสียง เช่น การเลือกโซนที่ต้องการกระจายเสียง
การประยุกต์ใช้ระบบเสียงตามสาย:
-
สถานศึกษา: ใช้สำหรับการประกาศกิจกรรม การแจ้งข่าวสารสำคัญ หรือการแจ้งเหตุฉุกเฉิน
-
ห้างสรรพสินค้า: ใช้สำหรับการประชาสัมพันธ์โปรโมชั่น การประกาศลูกค้าที่หาย หรือการแจ้งเหตุฉุกเฉิน
-
สนามบินและสถานีขนส่ง: ใช้สำหรับการประกาศเที่ยวบินหรือเที่ยวรถ การให้ข้อมูลการเดินทาง และการแจ้งเหตุฉุกเฉิน
ระบบเสียงแบ็คกราวน์มิวสิค (Background Music System)
ระบบเสียงแบ็คกราวน์มิวสิคเป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมในสถานที่ต่าง ๆ โดยการเล่นเพลงหรือเสียงเบา ๆ เพื่อเพิ่มความน่าอยู่และความสบายใจให้กับผู้ที่อยู่ในพื้นที่นั้น ๆ
องค์ประกอบหลักของระบบเสียงแบ็คกราวน์มิวสิค:
-
แหล่งที่มาของเสียง (Audio Source): อาจเป็นเครื่องเล่นซีดี วิทยุ อุปกรณ์เชื่อมต่อ Bluetooth หรือระบบสตรีมมิ่งเพลง
-
เครื่องขยายเสียง (Amplifier): ทำหน้าที่ขยายสัญญาณเสียงให้มีความดังที่เหมาะสม
-
ลำโพง (Speaker): ติดตั้งในจุดต่าง ๆ เพื่อกระจายเสียงให้ทั่วถึงพื้นที่
-
ระบบควบคุม (Control System): ช่วยในการควบคุมระดับเสียง การเลือกเพลง หรือการตั้งค่าเวลาในการเล่นเพลง
การประยุกต์ใช้ระบบเสียงแบ็คกราวน์มิวสิค:
-
ร้านอาหารและคาเฟ่: เพิ่มบรรยากาศที่ผ่อนคลายและน่าพอใจให้กับลูกค้า
-
โรงแรมและรีสอร์ท: สร้างบรรยากาศที่หรูหราและผ่อนคลายให้กับผู้เข้าพัก
-
ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า: ช่วยลดความเงียบและสร้างบรรยากาศที่คึกคัก
ความสำคัญของการบูรณาการระบบเสียงทั้งสอง
ในบางสถานที่อาจมีการบูรณาการระบบเสียงตามสายและระบบเสียงแบ็คกราวน์มิวสิคเข้าด้วยกัน เพื่อให้สามารถใช้งานได้ทั้งการสื่อสารสาธารณะและการสร้างบรรยากาศที่เหมาะสม ตัวอย่างเช่น ในห้างสรรพสินค้าอาจมีการเล่นเพลงเบา ๆ เป็นแบ็คกราวน์มิวสิค และเมื่อมีประกาศสำคัญ ระบบเสียงตามสายจะตัดเข้ามาเพื่อทำการประกาศ
ประโยชน์ของการบูรณาการ:
-
ประสิทธิภาพในการใช้งาน: สามารถใช้งานระบบเสียงได้หลากหลายวัตถุประสงค์
-
ประหยัดต้นทุน: ไม่จำเป็นต้องติดตั้งระบบแยกต่างหากสำหรับแต่ละวัตถุประสงค์
-
ความยืดหยุ่น: สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามความต้องการ
เทคโนโลยีใหม่ ๆ ในระบบเสียง
ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ระบบเสียงทั้งสองประเภทนี้ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาประยุกต์ใช้ เช่น:
-
ระบบเสียงดิจิทัล: ช่วยให้การควบคุมและการกระจายเสียงมีความแม่นยำและยืดหยุ่นมากขึ้น
-
ระบบเสียงอัจฉริยะ: สามารถปรับระดับเสียงและเลือกเพลงได้อัตโนมัติตามสภาพแวดล้อมและเวลาของวัน
-
ระบบเสียงผ่านเครือข่าย IP: ช่วยให้สามารถควบคุมและจัดการระบบเสียงได้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
สรุป
ระบบเสียงตามสายและระบบเสียงแบ็คกราวน์มิวสิคเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการสื่อสารและสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมในสถานที่ต่าง ๆ การบูรณาการระบบเสียงทั้งสองเข้าด้วยกันสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นในการใช้งาน ในขณะที่เทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามาช่วยให้ระบบเสียงเหล่านี้มีความทันสมัยและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น
เสียงเพลงคลอเบาๆ เสียงเพลงแบ๊คกราวด์ (background music) หมายถึงดนตรีหรือเพลงที่เปิดอยู่เบื้องหลังเพื่อสร้างบรรยากาศ ไม่ว่าจะเป็นในร้านอาหาร โรงแรม ร้านกาแฟ หรือสถานที่ต่าง ๆ โดยทั่วไปเสียงเพลงแบ๊คกราวด์มักจะมีโทนที่นุ่มนวล สบาย ๆ เพื่อไม่ให้รบกวนการสนทนา หรือกิจกรรมหลักของผู้ที่อยู่ในสถานที่นั้น ๆ
ในร้านอาหารหรือคาเฟ่ การเลือกเสียงเพลงแบ๊คกราวด์ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะสร้างบรรยากาศที่ตรงกับสไตล์และบรรยากาศของร้าน เช่น ร้านกาแฟอาจจะเลือกเปิดเพลงแจ๊ส หรืออะคูสติกเบา ๆ ส่วนร้านอาหารหรูอาจเลือกใช้เพลงคลาสสิกเพื่อเสริมความสง่างามเพลงบรรเลงเพราะๆเบาๆ ร้านอาหาร,ภัตตาคาร,โรงแรม, ศูนย์การค้า และสถานที่อำนวยความสะดวกอื่น ๆ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
Pro-Ject Audio Systems ระออกแบบระบบเสียงในอาคาร |
Call 081-6484181 |
|
|
ใช้เพลงแบ๊คกราวด์แบบไหนดีที่เหมาะกับสถานที่หรือบรรยากาศที่ต้องการสร้าง โดยทั่วไปแล้ว ประเภทของเพลงแบ๊คกราวด์มีดังนี้:
1. เพลงคลาสสิก (Classical Music)
- ใช้ในสถานที่ที่ต้องการสร้างบรรยากาศหรูหรา สงบ และผ่อนคลาย เช่น โรงแรมหรู ร้านอาหารชั้นสูง หรือร้านกาแฟที่เน้นความสวยงามแบบคลาสสิก
- เพลงจากคีตกวีชื่อดังอย่าง Mozart, Beethoven, หรือ Bach มักจะถูกนำมาใช้
2. เพลงแจ๊ส (Jazz)
- เหมาะสำหรับร้านอาหารหรือคาเฟ่ที่ต้องการบรรยากาศผ่อนคลาย อบอุ่น และสร้างความสุนทรีย์
- เพลงแจ๊สเบา ๆ ที่ใช้ในแบ๊คกราวด์มักมีสไตล์บอสซาโนว่า, บลูส์ หรือสวิง
3. เพลงอะคูสติก (Acoustic Music)
- สร้างบรรยากาศสบาย ๆ เป็นกันเอง เช่นในร้านกาแฟ หรือสถานที่ที่ต้องการความรู้สึกเป็นธรรมชาติและไม่เป็นทางการมาก
- มักเป็นเพลงกีตาร์หรือเปียโนเบา ๆ ที่ไม่มีการบรรเลงด้วยเครื่องดนตรีไฟฟ้า
4. เพลงป็อปเบา ๆ (Soft Pop)
- ใช้สร้างบรรยากาศเป็นกันเองและทันสมัย โดยเพลงป็อปที่ถูกเลือกจะเป็นเพลงที่เนื้อร้องไม่ดังเกินไป มีเมโลดี้ที่นุ่มนวลและฟังง่าย
- เหมาะกับร้านค้า ร้านอาหารฟิวชัน หรือสถานที่ที่คนทุกเพศทุกวัยสามารถเข้าถึงได้
5. เพลงบรรเลง (Instrumental Music)
- ใช้สร้างความสงบและไม่ให้รบกวนการสื่อสารของผู้คน เพลงบรรเลงที่ไม่ใช้คำร้อง เช่น เพลงบรรเลงด้วยเปียโน หรือซาวด์แทร็คจากภาพยนตร์
- เหมาะสำหรับใช้ในสถานที่ที่เน้นการพักผ่อนหรืองานที่ต้องการความเงียบสงบ เช่น ร้านนวดหรือสปา
6. เพลงอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Music)
- บางครั้งใช้ในสถานที่ที่ต้องการบรรยากาศสมัยใหม่และมีชีวิตชีวา เช่น ร้านอาหารทันสมัย หรือร้านเสื้อผ้าแฟชั่น
- ดนตรีแนว Chillout, Downtempo หรือ Ambient ก็เป็นที่นิยมใช้เป็นแบ๊คกราวด์ในบาร์หรือคาเฟ่ที่ทันสมัย
7. เพลงธรรมชาติ (Nature Sounds)
- การใช้เสียงธรรมชาติ เช่น เสียงน้ำไหล เสียงลม หรือเสียงนกร้อง มักจะใช้ในสถานที่ที่ต้องการสร้างบรรยากาศสงบและผ่อนคลาย เช่น สปา หรือรีสอร์ทที่เน้นความสงบเงียบ
- เสียงเหล่านี้ช่วยในการสร้างบรรยากาศที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ
8. เพลงพื้นบ้านหรือเพลงท้องถิ่น (Folk/Local Music)
- ใช้ในสถานที่ที่ต้องการเน้นความเป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่น เช่น ร้านอาหารที่เน้นอาหารพื้นเมือง หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องการสร้างความรู้สึกทางวัฒนธรรม
เพลงแบ๊คกราวด์แต่ละประเภทสามารถเลือกใช้ให้เข้ากับลักษณะของสถานที่และวัตถุประสงค์ของธุรกิจ คุณมีสถานที่หรือบรรยากาศในใจที่ต้องการให้ช่วยแนะนำเพิ่มเติมไหมครับ?
|
www.karaoke-thai.com/
www.audio-hi-end.com/
|